All Articles
7. 19. 2022
Grand Seiko 44GS 55th Anniversary Limited Edition SBGY009
ฉลองวาระ 55 ปีแห่งรูปแบบดีไซน์ Grand Seiko Style ด้วยเรือนเวลาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระจันทร์เต็มดวงที่ลอยเด่นอยู่เหนือภูเขาชินชู

ค.ศ.2022 คือ ศักราชแห่งวาระครบรอบ 55 ปีแห่ง 44GS เรือนเวลาซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของรหัสการออกแบบที่รู้จักกันในนาม Grand Seiko Style (แกรนด์ ไซโก สไตล์) เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่เรือนเวลารุ่นนี้ Grand Seiko จึงนำเสนอเรือนเวลา 44GS 55th Anniversary Limited Edition SBGY009 ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก Spring Drive คาลิเบอร์ 9R31 เรือนเวลา SBGY009 รุ่นนี้โดดเด่นด้วยตัวเรือนแบบ 44GS ที่มีขนาดเพรียวบางยิ่งขึ้น และหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มที่ดูราวกับมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก tsuki tenshin (สึกิ เทนชิน) อันเป็นขณะเวลาที่พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นอยู่ ณ จุดสูงสุดบนท้องฟ้าเหนือภูเขาชินชู

ใน ค.ศ.2013 Grand Seiko ได้เริ่มนำเสนอรูปแบบการตีความแบบสมัยใหม่ของดีไซน์ 44GS อันเป็นการปรับรูปแบบดั้งเดิมของรุ่นประวัติศาสตร์ให้แลดูร่วมสมัยสอดคล้องกับยุคปัจจุบัน และใน ค.ศ.2017 ตัวเรือน 44GS ที่ได้รับการตีความแบบสมัยใหม่ก็เป็นเรือนเวลารุ่นแรกที่ได้ใช้กลไกอัตโนมัติระบบ Spring Drive คาลิเบอร์ 9R15 ที่สำรองพลังงานได้ 3 วัน โดยมากับตัวเรือนพร้อมสายทอง 18k และมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ขณะที่รุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล ถูกเปิดตัวสู่ตลาดโลกใน ค.ศ.2018 สำหรับเรือนเวลา SBGY009 รุ่นนี้ ดีไซน์ 44GS แบบสมัยใหม่ได้ถูกนำมาใช้อีกครั้งหนึ่งโดยคราวนี้ถูกทำให้มีขนาดเพรียวบางยิ่งขึ้นซึ่งเกิดขึ้นได้จากการบรรจุด้วยกลไกไขลานระบบ Spring Drive 9R31

คาลิเบอร์ 9R31 ถูกนำเสนอออกมาใน ค.ศ.2019 ควบคู่ไปกับคาลิเบอร์ 9R02 โดยการเปิดตัวของ 9R31 นั้นถือเป็นการฉลองวาระครบรอบ 20 ปีของกลไก Spring Drive เครื่องประสิทธิภาพสูงที่มีขนาดเพรียวบางคาลิเบอร์นี้มากับโครงสร้างตลับลานคู่ ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถสำรองพลังงานได้ยาวนานขึ้นเป็น 72 ชั่วโมง และรักษาแรงบิดระดับสูงอันเป็นสิ่งจำเป็นต่อการขับเคลื่อนกลไกและเข็มไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เครื่อง 9R31 คาลิเบอร์นี้ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม ตั้งแต่การเผยให้เห็นชิ้นทับทิม ชิ้นสกรูที่ผ่านการให้ความร้อนจนเป็นสีน้ำเงิน และแนวฐานรองสกรูที่ถูกตัดแต่งดุจการเจียระไนเพชร ไปจนถึงการใช้สะพานจักรขัดแต่งลายเส้นละเอียดแบบแฮร์ไลน์เพียงชิ้นเดียวในการมอบความต้านทานต่อแรงกระแทกและความราบรื่นแก่ประสิทธิผลการทำงานของขบวนเฟือง เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว คาลิเบอร์ 9R31 จะมีส่วนประกอบมากกว่า 200 ชิ้น และเป็นเครื่องระบบ Spring Drive ของ Grand Seiko ที่มีขนาดบางที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก คาลิเบอร์ 9R02 โดยเป็นผลงานการผลิตจากสตูดิโอนาฬิกาชินชู ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงงาน ชิโอจิริ ของบริษัท Seiko Epson (ไซโก เอปสัน)

ตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่ถูกตกแต่งด้วยความชำนาญของรุ่นนี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับ 40 มิลลิเมตร โดยมีความยาวจากปลายขาตัวเรือนด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งเท่ากับ 46.2 มิลลิเมตร และมีความหนาเพียงแค่ 10.5 มิลลิเมตร เท่านั้น ซึ่งบางกว่าเรือนเวลา 44GS รุ่นตีความแบบสมัยใหม่ที่ใช้เครื่องอัตโนมัติระบบ Spring Drive คาลิเบอร์ 9R65 ถึง 2 มิลลิเมตร อีกทั้งโครงสร้างตัวเรือนที่มาพร้อมกับกระจกแซพไฟร์รูปทรงกล่องอันงามสง่าของรุ่นนี้ยังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงกว่าเดิม ซึ่งช่วยมอบความกระชับและความสบายให้กับข้อมือได้เป็นอย่างดี

หน้าปัดสีน้ำเงินเข้มมีรูปแบบการสะท้อนแสงแบบประกายซันเรย์ที่ดูราวกับมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาด้วยการรับแสงจากทุกมุม ก่อเกิดเป็นความระยิบระยับดุจประกายแสงแห่งพระจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่ ณ จุดสูงสุดบนท้องฟ้าเหนือภูมิประเทศ ส่วนเข็มนาทีและเข็มวินาทีนั้นจะค่อย ๆ โค้งเข้าหาสเกลนาทีที่บริเวณขอบหน้าปัดอย่างนุ่มนวลเพื่อเพิ่มระดับความชัดเจนให้กับการอ่านค่าเวลาในภาพรวม นอกจากนี้ คาลิเบอร์ 9R31 ยังถูกย้ายเข็มบอกพลังงานสำรองจากฝั่งด้านหน้าปัดไปอยู่บนด้านหลังของตัวนาฬิกาเพื่อสร้างความสมมาตรให้กับหน้าปัดโดยยังคงประโยชน์ของฟังก์ชั่นบอกพลังงานสำรองเอาไว้เช่นเคย สำหรับสายนาฬิกาที่นำเสนอมาพร้อมกับ SBGY009 นั้นเป็นสายสีน้ำเงินเข้มในเฉดที่สอดคล้องกับสีของหน้าปัด

SBGY009 ถูกนำเสนอในฐานะเรือนเวลา ลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,500 เรือน ด้วยราคาจำหน่าย 309,400 บาท โดยมีหมายเลขประจำเรือนและข้อความ “Limited Edition” สลักไว้บนวงขอบฝาหลัง เรือนเวลารุ่นใหม่ของคอลเลกชั่น Heritage (เฮอริเทจ) รุ่นนี้จะวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคมที่บูติก Grand Seiko และผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการคัดเลือกทั่วโลก

 

Grand Seiko Heritage Collection
Spring Drive Manual SBGY009
309,400
อ่านต่อ