การออกแบบดังกล่าวถูกสร้างให้เป็นที่รู้จักในคอลเลคชั่นของ Grand Seiko ตราบจนทุกวันนี้ โดยกลไก Spring Drive ของ 62GS ยังคงเป็นรูปแบบหลักใน Grand Seiko Heritage คอลเลกชัน
ปัจจุบัน Grand Seiko ขอแนะนำสองรุ่น 62GS ใหม่ พร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 30 มม.
STGK031
STGK033
แรงบันดาลใจจากดอกซากุระในต้นฤดูใบไม้ผลิ
นาฬิการุ่นใหม่แต่ละรุ่นได้รับแรงบันดาลใจจากดอกซากุระในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิทางตอนเหนือของญี่ปุ่น
หน้าปัดสีชมพู ของนาฬิการุ่น STGK031 ได้รับแรงบันดาลใจจากซากุระคาคุชิ ซึ่งสะท้อนถึงดอกซากุระที่ซ่อนอยู่ใต้หิมะในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ปรากฏการณ์อันละเอียดอ่อนนี้เกิดขึ้นในภูมิภาคซึ่งเป็นที่ตั้งของ Grand Seiko Studio Shizukuishi แสดงถึงทัศนียภาพอันงดงาม และการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของฤดูกาล เสมือนฤดูหนาวที่เข้ามาแทนที่ฤดูใบไม้ผลิ
หน้าปัดลวดลายสีเงินบนนาฬิการุ่น STGK033 เผยให้เห็นถึงความงามของดอกซากุระในคืนเดือนหงายในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่เกิดขึ้นทางตอนเหนือของญี่ปุ่น อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันจากกลางวันสู่กลางคืนมักส่งผลให้เกิดบรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบ ปรากฏการณ์ซากุระสึกิโยะบรรยายถึงความงามของดอกซากุระที่เปล่งประกายใต้แสงจันทร์ที่ส่องกระจ่างในบรรยากาศที่พร่ามัว
นาฬิกาทั้ง 2รุ่น STGK031 และ STGK033 มาพร้อมขนาดที่กะทัดรัด ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลอัตโนมัติ Caliber 9S27 ซึ่งเป็นกลไกที่เล็กและบางที่สุดของ Grand Seiko โดยมีขนาด 10.5 มม.
เพลิดเพลินไปกับความงามของ Caliber 9S27 ผ่านทางฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์ของนาฬิกาแต่ละเรือน ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 มม. และสูง 4.49 มม. Caliber 9S27 มีสมรรถนะอันเป็นเลิศแม้จะมีขนาดที่เล็กก็ตาม และด้วย Escape Wheel ที่สร้างขึ้นโดยวิศวกรรมและ MEMS ที่ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายดอกไม้ห้ากลีบ ทำให้ได้ธีมการออกแบบดอกไม้ที่ผสานรายละเอียดที่เล็กที่สุดได้อย่างลงตัว
ตัวเรือนและสายนาฬิกาของแต่ละรุ่น ผลิตจากสเตนเลสสตีล และกันน้ำได้ถึง 10 บาร์
นาฬิกาใหม่ทั้งสองเรือนจะวางจำหน่ายที่ร้าน Grand Seiko Boutique และ Grand Seiko Salon ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568
