ประวัติความเป็นมาของ Seiko ย้อนกลับไปถึงปี ค.ศ. 1881 เมื่อ คินทาโร ฮัตโตริ เปิดร้านรับซ่อมและจำหน่ายนาฬิกาของตนขึ้นในย่านกินซ่า ต่อมาในปี ค.ศ. 1913 บริษัทของเขาก็ได้ผลิตนาฬิกาข้อมือแบบแรกของญี่ปุ่นขึ้น โดยให้ชื่อว่า Laurel (ลอเรล) จากนั้นก้าวสำคัญแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาก็เกิดตามมาอีกมากมาย ซึ่งรวมถึงนาฬิกา Grand Seiko แบบแรกที่เปิดตัวออกมาในปี 1960 ด้วย
วันนี้ Grand Seiko ได้ทำการสดุดีนาฬิกาข้อมือแบบแรกของญี่ปุ่นด้วยการนำเสนองานสร้างสรรค์นาฬิกา แบบแรกขึ้นใหม่ โดยผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 เรือน มาพร้อมความงดงามน่าทึ่งด้วยตัวเรือนที่สร้างขึ้นจาก บริลเลียนท์ ฮาร์ด ไทเทเนียม และหน้าปัดที่เคลือบด้วยแลคเกอร์ อุรุชิ แบบดั้งเดิม พร้อมหลักชั่วโมงและตราสัญลักษณ์ผิวนูนซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิค มากิ-เอะ
นับตั้งแต่ Grand Seiko แบบแรกเปิดตัวออกมาในปี 1960 ความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานก็ได้ถูกยึดถือเป็นแนวทางหลักในการผลิตนาฬิกาทุกเรือนเสมอมา SBGW295 ได้รวบรวมความมุ่งมั่นในการสร้างนาฬิกาที่สมบูรณ์แบบสำหรับชีวิตประจำวันเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่ตัวเรือนขนาด 38 มม. ผิวขัดเงาด้วยเทคนิคซารัตสึ ที่สร้างขึ้นจาก บริลเลียนท์ ฮาร์ด ไทเทเนียม ซึ่งมีเนื้อผิวที่สว่างกว่าไทเทเนียมที่ใช้กันโดยทั่วไป และมีระดับความแข็งเป็น 2 เท่าของสเตนเลสสตีล SBGW295 มีคุณลักษณะเป็นนาฬิกาสไตล์เดรสที่งามสง่า แต่ด้วยคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้สร้างตัวเรือน นี่จึงเป็นนาฬิกาที่ผลิตขึ้นเพื่อให้ทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างยาวนาน
อุรุชิ ได้มาจากยางไม้ตามธรรมชาติของต้นแลคเกอร์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะถูกใช้เพื่อตกแต่งวัตถุต่าง ๆ เช่น ภาชนะบรรจุอาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องดนตรี แลคเกอร์ที่ Grand Seiko นำมาใช้ ต้องมาจากแหล่งผลิตในญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่หายากและมีคุณค่า เนื่องจากแลคเกอร์โดยส่วนใหญ่ที่พบเห็นกันในปัจจุบัน มีที่มาจากแหล่งผลิตในประเทศอื่น ๆ สีดำสนิทของ อุรุชิ เกิดขึ้นได้ด้วยการเติมธาตุเหล็กเข้าไป อีกทั้งแลคเกอร์นี้ยังได้รับการปรับปรุงคุณสมบัติด้วยกรรมวิธีเฉพาะของ Grand Seiko เพื่อป้องกันไม่ให้สีของแลคเกอร์เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อกาลเวลาผ่านไป สอดคล้องกับพันธกิจของแบรนด์ในการสร้างนาฬิกาให้มีความคงทนตราบนานเท่านาน
หลักชั่วโมง มากิ-เอะ เป็นงานฝีมือของปรมาจารย์แห่ง อุรุชิ ผู้มีนามว่า อิชชู ทามูระ สร้างสรรค์ขึ้น ณ สตูดิโอของเขาในเมืองคานาซาวา อันเป็นชื่อบทกวีที่แปลว่า “บึงแห่งทอง” ท้องถิ่นที่ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นยังคงมีลมหายใจอยู่ ทามูระ ได้สร้างหลักชั่วโมงขึ้นด้วยการลงแลคเกอร์ทีละชั้นเพื่อให้เกิดรูปร่างแบบ 3 มิติ อันเป็นหนึ่งในลักษณะสำคัญของเทคนิคนี้ จากนั้นจึงโรยผงทองลงบนผิว 3 มิติ ตามนิยามของ มากิ-เอะ ที่หมายถึง “ภาพโรย” การสร้างเส้นตรงของหลักชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นขนานของชั่วโมงหลักนั้น ต้องอาศัยฝีมือของผู้เชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์ และยิ่งทวีความซับซ้อนยุ่งยากขึ้นไปอีก เมื่อต้องกระทำบนหน้าปัดที่มีผิวโค้งเช่นนี้
สิ่งที่มองเห็นได้ผ่านฝาหลังกรุกระจกใสก็คือ กลไกไขลาน ความถี่การทำงาน 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง คาลิเบอร์ 9S64 ที่ทำให้ SBGW295 มีรูปร่างที่เพรียวบางชวนสวมใส่ด้วยความหนาวัดจากระดับบนสุดถึงล่างสุดเพียง 10.9 มม. เท่านั้น ขณะที่มอบความแม่นยำได้ถึง +5/-3 วินาทีต่อวันเมื่ออยู่ในสภาวะคงที่ และให้พลังงานสำรองได้ถึง 3 วัน
นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับตัวล็อกชนิดบานพับที่ทำจาก บริลเลียนท์ ฮาร์ด ไทเทเนียม 1 ชิ้น และสายนาฬิกา 2 เส้น โดยเส้นหนึ่งใช้เทคนิคการทอที่เรียกว่า โยโรอิโอริ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ในสมัยก่อนเคยใช้ทำชุดเกราะซามูไร ส่วนอีกเส้นหนึ่งเป็นสายหนังผิวนุ่มที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีให้มีเนื้อผิวที่สวยงามและเนื้อสัมผัสที่สวมสบาย
นาฬิกา ลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัด 500 เรือนรุ่นนี้ จะวางจำหน่ายในราคา 546,000 บาท ที่ แกรนด์ ไซโก บูติก และตัวแทนจำหน่ายบางแห่งทั่วโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2023
