“สนิมเขียว”เกิดขึ้นจากปฎิริยาและการกัดกร่อนบนพื้นผิวทองแดงหรือทองเหลืองเมื่อถูกฝนและลมเป็นเวลานาน ตัวอย่างเช่น พระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระ ในอดีตคราบสนิมเขียวประเภทนี้ไม่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น ซึ่งต่างกับสนิมแดงที่ สนิมเขียวไม่กัดกร่อนและยังรักษาคงสภาพภายในตัวโลหะ ในปัจจุบันสนิมเขียวถูกมองเป็นค่านิยมภายใต้แนวความคิดแบบ ซาบิ ที่หล่อหลอมให้คนญี่ปุ่นชื่นชอบและเห็นคุณค่า อันเป็นสุนทรียภาพอันเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น ผลงานสีสนิมของโคอิจิ อุชิดะสะท้อนถึงการแสดงออกอันเรียบง่ายบนเซรามิกด้วยการพ่นผงทองแดง โลกของเซรามิกมีความสัมพันธ์กับโลหะมาโดยตลอด ด้วยการเคลือบสีผงโลหะ ทอง เงิน และแมงกานีสเพื่อเพิ่มสีสันต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ บนเครื่องปั้นดินเผา ผลงานศิลปะชิ้นนี้ถือเป็นประติมากรรมทางประวัติศาสตร์ที่ขยายตัวอย่างกว้างขวาง ด้วยกรรมวิธีสมัยใหม่ สีน้ำเงินอมเขียวได้ถูกรังสรรค์ขึ้นดูลึกลับมีมิติ ราวกับการใช้สีหลายเลเยอร์ สะท้อนถึงจิตวิญญาณและความงามที่คล้ายกับหน้าปัดสีเขียวมรกตของ Grand Seiko SLGA025 ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่
จังหวัดนากาโนสถานที่ผลิตนาฬิกากลไก Spring Drive อันมีแม่น้ำหลายสายที่ไหลลงจากเทือกเขาที่ระดับความสูงเกิน3000 เมตร ซึ่งเป็นลักษณะภูมิทัศน์ทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ หุบเขา Atera ในจังหวัดนากาโน ถือเป็นทัศนียภาพที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น น้ำในแม่น้ำ Atera ใสจนถูกเรียกว่า “อะเทะระบลู” “Atera Blue” ซึ่งเป็นสถานที่ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนที่มาเข้าชม นาฬิการุ่นนี้รังสรรค์หน้าปัดด้วยสีเขียวมรกตซึ่งชวนให้นึกถึงสีน้ำเงินของแม่น้ำ Atera ( การเรียกสีเขียวว่าสีน้ำเงินในญี่ปุ่นเป็นวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของคนญี่ปุ่นที่สืบทอดจากธรรมเนียมในอดีตที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน) หน้าปัดของนาฬิกาชวนให้นึกถึงธารน้ำใสสะอาด ที่ประสานความงามของธรรมชาติอันสมบูรณ์ของฤดูร้อนและรูปแบบที่ละเอียดอ่อน หัวใจสำคัญของนาฬิการุ่นนี้คือกลไก Spring Drive 5 Days Caliber 9RA2 ที่ให้พลังงานสำรองสูงสุด 120 ชั่วโมงและมีความแม่นยำเฉลี่ย ±10 วินาทีต่อเดือน
ภาพโดย Naohiro Tsukada
บทความโดย Natsuki Ando
