All Articles
9. 12. 2022
Grand Seiko 44GS Ever-Brilliant Steel Hi-Beat SLGH013
นาฬิกา Grand Seiko แบบไม่ใช่การผลิตจำนวนจำกัดรุ่นแรกที่มากับตัวเรือนและสาย
เอเวอร์-บริลเลียนท์ สตีล

ค.ศ.2022 เป็นศักราชครบรอบ 55 ปีของรุ่น 44GS นาฬิการะดับสัญลักษณ์ซึ่งใช้ตัวเรือนที่อุดมไปด้วยแนวเหลี่ยมที่ถูกตัดเจียรอย่างคมกริบดุจการเจียระไนเพชรพลอยและสะท้อนแสงได้อย่างเต็มที่ อันเป็นนาฬิกาที่ได้กำหนดหลักการออกแบบซึ่งมีอิทธิพลต่อ Grand Seiko ทุกรุ่นที่ถือกำเนิดขึ้นหลังจากนั้น นาฬิการุ่นล่าสุดที่ใช้ดีไซน์การออกแบบอันโด่งดังนี้ก็คือ SLGH013 ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับด้วยการอัพเกรดวัสดุและใช้หน้าปัดสีฟ้าอ่อนรูปแบบใหม่ที่ชวนให้นึกถึงหิมะที่กำลังละลายของภูเขาอิวาเตะ ยอดเขาอันตระการตาที่มองเห็นได้จากสตูดิโอชิสุกุอิชิ ของ Grand Seiko

ช่างฝีมือทั้งชายและหญิงแห่งสตูดิโอ Grand Seiko ที่ชิสุกุอิชิ สามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลได้จากภูเขาอิวาเตะ ความเชื่อมโยงกับธรรมชาติเช่นนี้ปรากฏอย่างชัดเจนในผลงานของพวกเขา หน้าปัดแบบใหม่นี้มีความเชื่อมโยงเป็นพิเศษกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลในจังหวัดอิวาเตะ แสงที่สาดส่องลงบนพื้นผิวเรียบของหน้าปัดถูกจับและสะท้อนออกมาด้วยหลักชั่วโมงที่ตัดเจียรให้มีหลายเหลี่ยมมุม ปฎิสัมพันธ์อันน่าทึ่งของแสงและเงาที่เชิญชวนให้จ้องมองด้วยความชื่นชมซ้ำแล้วซ้ำอีกเช่นนี้ คือ คุณลักษณะอันแสนคลาสสิกของนาฬิกา Grand Seiko

นอกจากนี้ SLGH013G ยังมีอีกคุณลักษณะน่าสนใจที่เหนือกว่ารูปลักษณ์ที่สวยงามของหน้าปัดอันโดดเด่นและตัวเรือนทรงสง่าขนาด 40 มิลลิเมตร เพราะนี่คือ Grand Seiko แบบไม่ใช่การผลิตจำนวนจำกัดรุ่นแรกที่ใช้ตัวเรือนและสายที่ทำจาก เอเวอร์-บริลเลียนท์ สตีล

เอเวอร์-บริลเลียนท์ สตีล มีสีขาวที่เจิดจ้าและมีความทนทานต่อการกัดกร่อนในระดับสูง โดยมีค่า PREN (พรีน : พิตติง รีซิสแทนซ์ อิควิวาเลนท์ นัมเบอร์ – ค่าความต้านทานการกัดกร่อน) สูงกว่าเกรดสตีลที่ใช้กับนาฬิการะดับไฮ-เอนด์ทั่วไปถึง 1.7 เท่า ด้วยอายุการใช้งานที่ยืนยาวซึ่งเป็นส่วนสำคัญของปรัชญาในการผลิตเรือนเวลาของ Grand Seiko การใช้วัสดุซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงชนิดนี้จึงทำให้มั่นใจได้ถึงความงดงามที่จะคงอยู่ตราบนานเท่านาน

ยิ่งไปกว่านั้น SLGH013 ยังขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 9SA5 ของ Grand Seiko ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และให้ความแม่นยำและความเสถียรในระดับสูงจากการเป็นคาลิเบอร์แบบ ไฮ-บีท ความถี่การทำงาน 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง และมีระยะการสำรองพลังงานที่ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการใช้เอสเคปเม้นท์ชนิด ดูอัล อิมพัลซ์ ซึ่งทำให้สามารถถ่ายเทพลังงานจากตลับลานคู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เอสเคปเม้นท์ชนิดนี้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติใหม่ที่โดดเด่นที่สุดของคาลิเบอร์ 9SA5 และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของนวัตกรรมและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในการผลิตนาฬิการะบบจักรกล การเคลื่อนไหวในแต่ละจังหวะของระบบเอสเคปเม้นท์ชนิด ดูอัล อิมพัลซ์ ในคาลิเบอร์ 9SA5 จะส่งแรงกระตุ้นไปในทิศทางเดียวและส่งพัลเลทฟอร์คข้ามไปยังทิศทางอื่นซึ่งเป็นการส่งแรงกระตุ้นโดยตรงไปสู่ทับทิมโรลเลอร์บนจักรกลอก

นอกเหนือจากเอสเคปเม้นท์ชนิด ดูอัล อิมพัลซ์ แล้ว ยังมีการแนะนำจักรกลอกแบบฟรี-สปรัง และขดสายใยจักรกลอกแบบโอเวอร์คอยล์ของ Grand Seiko ซึ่งช่วยปรับปรุงความทนทานและความต้านทานต่อแรงกระแทกให้ดียิ่งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิกาที่ใช้เรกูเลเตอร์เป็นตัวควบคุม โดยทั่วไปแล้ว จักรกลอกแบบฟรี-สปรัง จะสามารถแก้ไขการเสมอของช่วงเวลาขยับได้ด้วยการลงมือปรับตั้งที่สายใยจักรกลอกเท่านั้น แต่สำหรับคาลิเบอร์ 9SA5 รูปทรงโอเวอร์คอยล์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและสตั๊ดแบบหมุนได้ที่ส่วนปลายของสายใยจักรกลอกจะทำให้สามารถปรับการเสมอของช่วงเวลาขยับได้ด้วยการหมุนสกรู กลไกคาลิเบอร์ 9SA5 ได้รับการทดสอบตามมาตรฐานของ Grand Seiko โดยต้องให้อัตราเฉลี่ยรายวันได้อย่างน่าประทับใจที่ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน เมื่อทดสอบในสภาวะคงที่ มาตรฐานนี้จะทำการทดสอบในหกตำแหน่งและสามอุณหภูมิและใช้ระยะเวลาทดสอบถึง 17 วัน

SLGH013 จะมีจำหน่ายที่บูติก Grand Seiko และพันธมิตรผู้จำหน่ายที่ได้รับการคัดสรรตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 เป็นต้นไป โดยกำหนดราคาจำหน่ายปลีกไว้ที่  371,700 บาท

Grand Seiko Heritage Collection
Hi-Beat 36000 80 Hours SLGH013
THB 371,700
อ่านต่อ