เทือกเขาโฮทากะ อันกว้างใหญ่ที่ตั้งตระหง่านตัดกับเส้นขอบฟ้าของเมืองชินชูในจังหวัดนากาโน่ คือ ฉากทิวทัศน์อันแสนงดงามที่นักประดิษฐ์นาฬิกาแห่งสตูดิโอนาฬิกาชินชู ของ Grand Seiko อันเป็นแหล่งผลิตนาฬิการะบบสปริงไดรฟ์ ของ Grand Seiko มองเห็นได้จากสตูดิโอ ฉากทิวทัศน์นี้นำมาซึ่งแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เรือนเวลารุ่น SBGE295 นาฬิกาสปริงไดรฟ์ GMT รุ่นใหม่ล่าสุดจากคอลเลกชั่นสปอร์ตของ Grand Seiko
ที่ราบสูงโฮทากะ มีฤดูร้อนอยู่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น SBGE295 ได้หยิบยืมลักษณะปรากฎที่พบเห็นในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ อันได้แก่ โทนสีเขียวขจีและลักษณะพื้นผิวที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มาใช้กับหน้าปัดของนาฬิกาเพื่อชวนให้นึกถึงยอดเขาที่ปกคลุมด้วยพืชพรรณแห่งฤดูร้อน พื้นผิวหน้าปัดเช่นนี้อาจเป็นที่คุ้นเคยของเหล่านักสะสม Grand Seiko เนื่องจากมีลักษณะเดียวกับที่ใช้ในรุ่น SBGA413 และ SBGA415 มาก่อน ตลอดจนรุ่น SBGE277 ที่ออกมาในปี 2022 ซึ่งเป็นรุ่นที่นำแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากเทือกเขาโฮทากะ เช่นเดียวกันด้วย
SBGE295 มากับตัวเรือนสเตนเลสสตีล ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มม. หนา 14.7 มม. และมีความยาวเท่ากับ 50.8 มม. พร้อมคุณลักษณะของการตกแต่งแบบซารัตสึ โดยเป็นงานขัดผิวดุจกระจกสลับกับแนวเส้นแฮร์ไลน์แสนละเอียดตลอดพื้นผิวของตัวเรือน ส่วนแนวโค้งของขาตัวเรือนที่ออกแบบมาให้โอบรับกับข้อมือ ก็ทำให้ขนาดความยาวของนาฬิกาจากขาตัวเรือนด้านบนสู่ด้านล่างแลดูสั้นลง ซึ่งเมื่อรวมกับการวางตำแหน่งเม็ดมะยมไว้ที่ 4 นาฬิกาแล้ว ก็ส่งผลให้ตัวเรือนของนาฬิกาดูมีขนาดเล็กกว่าความเป็นจริง นอกจากนี้ ทุกองค์ประกอบยังถูกออกแบบขึ้นโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นวัตถุประสงค์หลักอีกด้วย
วงขอบตัวเรือนที่หมุนได้ 2 ทิศทางของนาฬิการุ่นนี้ ผนึกแผ่นวงแหวนแซพไฟร์สังเคราะห์อันแสนทนทานไว้บนวงสเกลเวลา 24 ชั่วโมงที่เคลือบด้วยสารเรืองแสงลูมิไบรท์ ของ Grand Seiko เพื่อให้ส่วนที่เป็นพื้นที่สีขาวทั้งหมดบนวงขอบตัวเรือนปรากฏแสงเรืองสว่างขึ้นมาเมื่ออยู่ในความมืด แซพไฟร์สังเคราะห์นี้ เป็นผลึกออกไซด์ที่มีค่าความแข็งถึง 2,500-3,000 วิกเกอร์ส ซึ่งมากที่สุดเท่าที่มนุษย์รู้จัก และมีความทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วนสูง
หน้าปัดสีเขียวบนพื้นผิวที่ดูเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานี้ มากับหลักชั่วโมงและเข็มขนาดใหญ่อันโดดเด่นพร้อมเคลือบด้วยลูมิไบรท์ แนววงขอบที่ล้อมผืนหน้าปัดเอาไว้มากับสเกลเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อให้ใช้อ่านค่าร่วมกับเข็ม GMT และเมื่อรวมกับสเกลเวลา 24 ชั่วโมงบนวงขอบตัวเรือน ก็ทำให้สามารถดูเวลาได้ถึง 3 เขตเวลา
นาฬิการุ่นนี้มีอัตราประสิทธิภาพการกันน้ำอยู่ที่ 20 บาร์ และมีความสามารถในการต้านทานแม่เหล็กได้ถึง 4,800 แอมแปร์/เมตร
SBGE295 ขับเคลื่อนด้วยกลไกสปริงไดรฟ์ คาลิเบอร์ 9R66 ของ Grand Seiko ที่มีพลังงานสำรองยาวนานถึง 72 ชั่วโมงเมื่อลานถูกขึ้นจนสุด และมีเข็มแสดงพลังงานสำรองซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนอยู่ถัดจากหลักชั่วโมงตำแหน่ง 8 นาฬิกาบนหน้าปัด ด้วยความที่คาลิเบอร์ 9R66 เป็นกลไกฟังก์ชั่น GMT แท้ ๆ เข็มชั่วโมงจึงสามารถปรับตั้งได้อย่างอิสระ ในขณะที่เข็ม GMT ยังคงแสดงค่าของเวลาโฮมไทม์อยู่เช่นเดิม
SBGE295 จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 เป็นต้นไปที่ แกรนด์ ไซโก บูติก และแกรนด์ ไซโกสาขาต่างๆ ในราคา 251,400 บาท
พบกับภาพถ่ายนาฬิกาเรือนจริงได้ที่ด้านล่าง (เรือนที่ปรากฏในภาพเป็นนาฬิกาตัวอย่าง ไม่ใช่เรือนที่ผลิตสำหรับการจำหน่ายจริง)